จี้ซาลาห์ทิ้งลิเวอร์พูล นี่คือประเด็นที่หลายคนอาจยังไม่ทันตั้งตัว เพราะที่ผ่านมาคนมักเห็นภาพ โม ซาลาห์ เป็นศูนย์กลางของทีม หัวใจเกมรุก และเสาหลักที่คอยประคอง ลิเวอร์พูล มาตลอดหลายปี แต่จู่ๆ เสียงจากผู้รู้จริงในวงการอย่าง มิโด้ กลับดังกระแทกขึ้นมาบนเวทีฟุตบอลต่างแดนด้วยโทนที่ฟังแล้วต้องสะดุ้ง เขาไม่ได้พูดแบบนักวิเคราะห์ทั่วไปที่นั่งอยู่หลังจอ แต่พูดในฐานะอดีตกองหน้าทีมชาติอียิปต์ที่เคยมีภาระความคาดหวังของคนทั้งประเทศทาบทับบนบ่ามาแล้ว และเข้าใจความรู้สึกของ ซาลาห์ แบบลึกถึงแก่น
มุมหนึ่งของเรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่ประเด็นฟอร์มหรือแท็กติก แต่คือเรื่องศักดิ์ศรี ความคาดหวังระดับชาติ และความรู้สึกที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มของซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งคนหนึ่งที่มีคนทั้งประเทศนั่งเฝ้าหน้าจอเพื่อรอเห็นเขาลงเล่นทุกนัด แม้กระทั่งตอนพักอยู่นอกร้านกาแฟในไคโรก็ยังเปิดเสียงเชียร์ให้ดังลั่น เมื่อเข้าใจภาพตรงนี้แล้ว คุณจะเริ่มเห็นชัดว่าทำไมคำพูดของมิโด้จึงหนักและตรงขนาดนี้
จี้ซาลาห์ทิ้งลิเวอร์พูล เสียงสะท้อนจากมิโด้ที่สั่นสะเทือนทั้งอียิปต์
การออกมาพูดของมิโด้ครั้งนี้ไม่ใช่คำให้สัมภาษณ์ผ่านอารมณ์ชั่ววูบ แต่เป็นน้ำเสียงจริงจังที่มาจากฐานประสบการณ์ส่วนตัว เขายืนยันว่าชาวอียิปต์กว่า 40 ถึง 50 ล้านคนกำลังตั้งคำถามและผิดหวังที่ไม่ได้เห็น ซาลาห์ ลงสนามต่อเนื่องเหมือนเดิม หลายคนบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่รู้สึกเหมือนขาดแสงไฟกลางคืน เพราะซูเปอร์สตาร์ของพวกเขาต้องนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองโดยไม่มีคำอธิบายที่หนักแน่นพอจากมุมมองของแฟนจากอีกซีกโลก
ผมอินกับสิ่งที่มิโด้พูด เพราะอดีตกองหน้ารายนี้เคยเล่าว่าการนั่งตัวสำรองไม่ใช่แค่การรอคอยโอกาส แต่มันเหมือนการทำให้คนทั้งชาติผิดหวัง เขาเล่าว่าตอนตนเล่นยุโรป แม้จะอยู่ไกลบ้านหลายพันกิโล แต่เขารู้ว่าคนในเมืองเกิดนับล้านกำลังรอเห็นเขาลงสนาม และเมื่อไม่ได้ลง ความรู้สึกเหมือนทำให้พวกเขาเสียใจมันกดดันจนยากอธิบาย
สิ่งที่มิโด้พูดจึงชี้ให้เห็นสถานการณ์ของ ซาลาห์ ในอีกมุมที่ต่างจากมุมของแฟนบอลอังกฤษ ในขณะที่หลายคนมองเรื่องฟอร์ม มองเรื่องแท็กติก มิโด้กลับมองเรื่องหัวใจและความคาดหวังของผู้คนที่เฝ้าดูสัญลักษณ์ของพวกเขาอยู่เงียบๆ จากอีกมุมหนึ่งของโลก
บรรยากาศในสนามจริงวันที่กระแสแฟนบอลอียิปต์เดือดถึงจุดแตก
นักข่าวหลายคนที่ลงพื้นที่ที่สนามแอนฟิลด์เล่าว่า ระหว่างเกมที่ ซาลาห์ ถูกดร็อปเสียงบ่นงึมงำของแฟนอียิปต์ที่ตามมาชมเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนคลื่นที่กำลังจะซัดเข้าฝั่ง บางคนเดินทางมาจากไคโรและอเล็กซานเดรียแค่เพื่อหวังเห็นไอดอลของพวกเขาลงสนามเพียงไม่กี่นาที แต่กลับต้องนั่งมองเขาอุ่นร่างกายข้างสนามโดยไม่มีจังหวะถูกเรียกลงไปเปลี่ยนเกม
ในฐานะคนที่คอยสังเกตอารมณ์ของแฟนบอลจากข้างสนาม ผมสัมผัสได้ว่าการที่ ซาลาห์ ถูกลดบทบาทแบบนี้มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ บางคนถึงกับบ่นว่า ถ้าจะใช้อย่างนี้ให้ลีกซาอุฯ มาเอาเขาไปดีกว่า เพราะอย่างน้อยที่นั่น ซาลาห์ จะถูกมองเป็นศูนย์กลางและได้รับความสำคัญระดับสูงสุด เหมือนดวงไฟที่ส่องสว่างทั้งลีก ไม่ใช่เพียงนักเตะที่รอคำสั่งอยู่ริมสนาม
เสียงสะท้อนเหล่านี้มันไม่ใช่การกดดันสโมสรแบบไร้เหตุผล แต่เป็นเสียงที่ผสมทั้งความรัก ความคาดหวัง และความผิดหวังที่คนอียิปต์มีต่อสัญลักษณ์หมายเลขหนึ่งของพวกเขา เสียงแบบนี้แหละที่ทำให้คำว่า ufa169 ที่ชอบเล่นกันในกลุ่มแฟนบางคนยังถูกหยิบมาแซวเพื่อบรรเทาความผิดหวังว่า ซาลาห์ ควรไปลุยลีกที่ให้ความสำคัญกับเขาแบบเต็มร้อย
จี้ซาลาห์ทิ้งลิเวอร์พูล ทำไมเสียงเรียกร้องนี้ถึงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเจาะลึกลงไปในมุมแท็กติก หลายคนตั้งคำถามว่าการที่ ซาลาห์ ไม่ได้ลงเล่นเต็มที่เหมือนเดิมเกิดจากอะไร ฟอร์มตกหรือมีเหตุผลเชิงวิธีการเล่นของระบบใหม่กันแน่ บางกระแสชี้ไปที่การมาถึงของกุนซือยุคใหม่ รูปแบบการขยับตำแหน่ง และแผนที่เปลี่ยนไปจนต้องพยายามสร้างสมดุลใหม่ทั้งทีม
แต่มิโด้มองต่างออกไป เขาเชื่อว่าถ้านักเตะระดับนี้ไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากโค้ช การแก้ไขมันยากกว่าเรื่องแท็กติกหลายเท่า เพราะความเชื่อมั่นคือสิ่งที่ทำให้นักเตะระดับโลกเฉิดฉายได้เต็มศักยภาพ และเมื่อ ซาลาห์ คือคนที่แบกสโมสรไว้บนบ่ามาหลายปี เป็นคนที่ทำประตูสำคัญจนพาทีมคว้าโทรฟีใหญ่มานับครั้งไม่ถ้วน เขาจึงควรได้รับความเคารพมากกว่านี้
แม้หลายคนยังมองในแง่ดีว่าอาจเป็นเพียงช่วงปรับตัวของทีมในขวบปีใหม่ของ ชาบี อลอนโซ่ กับ ลิเวอร์พูล แต่เสียงจากฝั่งอียิปต์ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สถานการณ์นี้เริ่มกลายเป็นเรื่องที่จับตามองอย่างยิ่ง
เส้นทางข้างหน้า ซาลาห์ ควรไปต่อหรือไปใหม่
เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด ทั้งเสียงจากแฟนบอล ความรู้สึกของนักเตะเอง และบทสัมภาษณ์ของมิโด้ คำถามจริงๆ จึงไม่ใช่ว่า ซาลาห์ ควรโกรธหรือไม่ควรโกรธ แต่ควรถามว่าเส้นทางไหนที่จะทำให้เขากลับมาเปล่งประกายที่สุด
ถ้าเขาอยู่ต่อที่แอนฟิลด์ เขายังเป็นตำนานที่ถูกจดจำ แต่ถ้าเขาเลือกออกเดินทางใหม่ในลีกซาอุฯ เขาอาจกลายเป็นศูนย์กลางของโปรเจกต์ยักษ์ และกลายเป็นตัวหลักที่ถูกยกให้เป็นพระเอกที่ส่องประกายแบบไม่มีข้อจำกัด
สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ ซาลาห์ ไม่ได้เป็นแค่กองหน้า แต่คือแรงบันดาลใจของภูมิภาคทั้งหมด เด็กหลายคนเริ่มจับบอลเพราะอยากเป็นเหมือนเขา ผู้ใหญ่หลายคนมองเขาเป็นสัญลักษณ์ของความพยายาม และคนทั้งชาติยืนดูเขาเล่นด้วยหัวใจที่ผูกพันเกินคำอธิบาย
การตัดสินใจครั้งนี้จึงใหญ่เกินกว่าคำว่าย้ายทีม แต่มันเป็นการเลือกเส้นทางที่ทั้งโลกเฝ้าดูอยู่ในเงียบๆ