แคนดิเดตคุมเรอัลมาดริด คล็อปป์เต็งหนึ่งกับพายุการเปลี่ยนแปลงที่เบร์นาเบว

แคนดิเดตคุมเรอัลมาดริด คือประโยคที่ผมได้ยินบ่อยกว่าปกติในโซนสื่อหลังเกมที่เบร์นาเบว คืนที่เสียงแฟนเงียบผิดปกติ ไม่ใช่เพราะอากาศหนาว แต่เพราะความพ่ายแพ้ที่กัดกินความเชื่อมั่นแบบไม่ทันตั้งตัว เกมที่เรอัล มาดริด แพ้คารังให้เซลต้า บีโก้ แบบศูนย์ต่อสอง ไม่ได้แค่ทำให้แต้มหล่น แต่มันเปิดคำถามใหญ่ถึงทิศทางของทีม และเก้าอี้ของชาบี อลอนโซ่ ที่เริ่มร้อนขึ้นจริงจัง ผมเห็นสีหน้าสตาฟฟ์ เห็นนักเตะเดินผ่านมิกซ์โซนแบบไม่สบตากล้อง และรู้เลยว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนบทสนทนาในสโมสรแห่งนี้

ความกดดันของอลอนโซ่ กับเกมที่ชี้ชะตา

อลอนโซ่ ไม่ได้ทำทีมแย่ในภาพรวม แต่ฟุตบอลระดับเรอัล มาดริด ไม่เคยวัดกันที่ความพยายาม วัดกันที่ผลลัพธ์ล้วนๆ การตามหลังบาร์เซโลน่าอยู่หลายคะแนน ทำให้ทุกเกมกลายเป็นบททดสอบทันที โดยเฉพาะโปรแกรมยุโรปที่รออยู่ตรงหน้า เกมใหญ่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่แค่เรื่องผ่านเข้ารอบ แต่คือการชี้ว่าห้องแต่งตัวยังเชื่อในแนวคิดของโค้ชหรือไม่ ในสนามซ้อมก่อนเกม ผมเห็นการซ้อมที่จริงจัง แต่ก็มีความตึงเครียดบางอย่างที่ปิดไม่มิด

แคนดิเดตคุมเรอัลมาดริด เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัวเลือกที่มีน้ำหนัก

ถ้าคุณถามคนในวงการสื่อสเปนตอนนี้ ชื่อแรกที่หลุดออกมาแทบทุกโต๊ะคือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงอย่างเดียว แต่เพราะโปรไฟล์ของเขาตอบโจทย์ทีมที่กำลังต้องการพลังใหม่ คล็อปป์เป็นโค้ชที่สร้างวัฒนธรรมทีมได้จริง เขารู้วิธีปลุกนักเตะให้วิ่งเกินขีดจำกัด และสำคัญที่สุด เขารับมือกับความกดดันจากสื่อได้ดีมาก แม้ตอนนี้เขาจะทำงานในบทบาทผู้บริหาร แต่หลายคนในเบร์นาเบวเชื่อว่า ถ้าโทรศัพท์ดังขึ้นจริง เขาอาจไม่ปฏิเสธ ความเป็นผู้นำของเขาคือสิ่งที่ทีมขาดหายไปในช่วงหลัง

ซีดาน กลาสเนอร์ และตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

แน่นอนว่า ซีเนดีน ซีดาน คือชื่อที่แฟนบอลคุ้นเคย เขารู้จักสโมสรนี้ทุกซอกทุกมุม รู้ว่าต้องพูดอะไรกับนักเตะในคืนที่ความกดดันถาโถม ข้อได้เปรียบของซีดานคือความสงบ และบารมีที่ทำให้ห้องแต่งตัวนิ่งได้ทันที แต่คำถามคือ เขาจะกลับมาพร้อมแนวคิดใหม่หรือไม่
ด้าน โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ คือชื่อที่นักข่าวภาคสนามเริ่มพูดถึงมากขึ้น เขาเป็นโค้ชที่รายละเอียดแน่น ชอบปรับแท็กติกตามคู่แข่ง และทำทีมเล็กให้เล่นเป็นระบบได้จริง แม้จะไม่ใช่ชื่อหวือหวา แต่ถ้ามองฟุตบอลล้วนๆ เขาคือคนที่น่าจับตา

แคนดิเดตคุมเรอัลมาดริด มุมมองจากขอบสนามก่อนเกมใหญ่

คืนก่อนเกมยุโรป ผมยืนอยู่ริมสนามซ้อม เห็นนักเตะบางคนซ้อมยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนกำลังปลดปล่อยความอัดอั้น เกมอย่าง เรอัล มาดริด พบ แมนซิตี้ ไม่ใช่เกมธรรมดา มันคือเวทีที่โค้ชจะถูกตัดสินจากเก้าสิบนาที ถ้าอลอนโซ่พาทีมยืนหยัดได้ เสียงลือเรื่องแคนดิเดตอาจเบาลง แต่ถ้าพลาดอีกครั้ง กระแสเปลี่ยนโค้ชจะไหลแรงจนยากหยุด

ทิศทางอนาคต และบทสรุปที่ยังไม่ปิด

เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่ไม่เคยรอเวลาให้ใครเรียนรู้จากความผิดพลาดนานเกินไป การเปิดชื่อแคนดิเดตหลายคน ไม่ได้แปลว่าการปลดจะเกิดทันที แต่มันคือสัญญาณว่าฝ่ายบริหารเตรียมทางเลือกไว้แล้ว สำหรับแฟนบอลที่ติดตามข่าวจากหลายแพลตฟอร์ม รวมถึงสายเดิมพันอย่าง ufa007 ก็คงเห็นอัตราต่อรองขยับไปตามฟอร์มในสนาม

ในฐานะคนข่าวที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมบอกได้แค่ว่า ช่วงเวลานี้คือจุดเปลี่ยนจริงๆ ไม่ว่าใครจะเป็นคนถัดไปบนม้านั่งข้างสนาม เขาจะต้องเข้าใจน้ำหนักของตราสโมสรนี้ และพร้อมรับแรงสั่นสะเทือนที่มาพร้อมชัยชนะและความพ่ายแพ้ เพราะที่เบร์นาเบว ทุกเกมคือการตัดสินอนาคตเสมอ