นอร์เวย์ 4-1 เอสโตเนีย

นอร์เวย์ 4-1 เอสโตเนีย ฮาลันด์–เซอร์ลอธ เบิ้ลพาทีมจ่อไปบอลโลกครั้งแรกในรอบ 28 ปี

นัดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม I ทีมชาตินอร์เวย์เปิดบ้านถล่มเอสโตเนีย 4–1 ได้สองคู่หูตัวรุก เออร์ลิง ฮาลันด์ กับ อเล็กซานเดอร์ เซอร์ลอธ ยิงคนละสองประตู ทำให้ทีมเก็บสามแต้มสำคัญ และแทบการันตีตั๋วไปบอลโลกที่สหรัฐฯ–แคนาดา–เม็กซิโก เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998

สรุปเกม นอร์เวย์ 4-1 เอสโตเนีย เกิดอะไรขึ้นบ้าง

ตอบก่อน: ครึ่งแรกฝืด ครึ่งหลังนอร์เวย์เปิดโหมดถล่ม 3 ลูกในเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนปิดกล่องรวม 4 ประตู

ภาพรวมเกมที่อุลเลวัล สตาดิโอน

  • ครึ่งแรก ทั้งสองทีมยิงไม่ได้ เกมค่อนข้างอึดอัด แฟนบอลเจ้าบ้านเริ่มโห่ เพราะนอร์เวย์ต้องการชัยชนะเพื่อเข้าใกล้ตั๋วบอลโลกให้มากที่สุด

  • ครึ่งหลัง นอร์เวย์เดินหน้าบุกหนัก และแก้แท็กติกให้เปิดบอลเข้าเขตโทษมากขึ้น

  • ผลคือ

    • เซอร์ลอธ โหม่งสองลูกติด ๆ จากจังหวะครอสทางด้านข้าง

    • จากนั้น ฮาลันด์ ก็มากดอีกสองประตู หนึ่งในนั้นเป็นลูกโหม่งเช่นกัน

    • เอสโตเนียได้ประตูปลอบใจจาก โรบี ซาร์มา แต่ไล่ไม่ทัน จบเกมที่สกอร์ 4–1

เกมนี้สะท้อนชัดว่า ถ้านอร์เวย์ปรับสปีดและเน้นลูกกลางอากาศ คู่เซนเตอร์ของเอสโตเนียเอาไม่อยู่จริง ๆ

ฮาลันด์–เซอร์ลอธ คนละสองประตู พลิกเกมช่วงต้นครึ่งหลัง

ตอบก่อน: ทั้งคู่ใช้จุดเด่นเรื่องพละกำลังและลูกกลางอากาศจนเกมรับเอสโตเนียพังทั้งแผง

อเล็กซานเดอร์ เซอร์ลอธ

  • ทำสองประตูจากลูกโหม่งในกรอบเขตโทษ

  • ใช้ความสูงและการจับจังหวะโหม่งได้ดีมาก

  • เปิดประตูให้ทีมเล่นง่ายขึ้นหลังพักครึ่ง ทำให้คู่แข่งต้องดันเกมบุกและทิ้งพื้นที่ด้านหลัง

เออร์ลิง ฮาลันด์

  • ยิงอีกสองลูก ปิดเกมแบบไม่ให้มีดราม่า

  • หนึ่งในประตูมาจากลูกโหม่ง แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้อันตรายแค่เล่นกับบอลบนพื้น แต่เก่งลูกกลางอากาศด้วย

  • เมื่อรวมทั้งรอบคัดเลือก ฮาลันด์ยิงไปแล้ว มากกว่า 10 ประตู และอยู่ใกล้สถิติยิงมากที่สุดในคัดบอลโลกของยุโรปในหนึ่งทัวร์นาเมนต์ด้วย

สำหรับแฟนบอลที่ดูตัวเลขอย่างเดียว อาจรู้สึกว่าเป็นเกมที่นอร์เวย์เหนือกว่าเยอะ แต่จริง ๆ จุดเปลี่ยนคือการ “อ่านเกมและเปลี่ยนวิธีเข้าทำ” มากกว่าแค่เรื่องฟอร์มปกติ

คำพูดตอนพักครึ่งของฮาลันด์เปลี่ยนเกมยังไง

ตอบก่อน: ตอนพักครึ่ง ฮาลันด์ในฐานะกัปตันทีมขอให้เพื่อน “เปิดบอลเข้าในมากขึ้น” และให้ทุกคนใจเย็น ผลคือครึ่งหลังทีมยิง 4 ลูก

จากรายงานหลังเกม เพื่อนร่วมทีมอย่าง มอร์ตัน ธอร์สบี้ เล่าว่า ตอนพักครึ่งที่สกอร์ยัง 0–0 และมีเสียงโห่จากแฟนบอล ฮาลันด์ลุกขึ้นมาพูดในห้องแต่งตัวว่าให้ทุกคนใจเย็น และให้เน้น ครอสบอลเข้ากรอบเขตโทษมากขึ้น แทนการพยายามจ่ายสั้นหน้ากรอบเฉย ๆ

ผลในสนามเห็นชัดมาก:

  • เริ่มครึ่งหลังไม่นาน ลูกครอสทางริมเส้นถูกเปิดเข้าไปให้เซอร์ลอธโหม่งสองประตูติด

  • แนวรับเอสโตเนียเริ่มรวน พอโดนเน้นลูกกลางอากาศซ้ำ ๆ ก็รับแทบไม่อยู่

  • ช่องว่างเปิดให้ฮาลันด์ได้โอกาสจบสกอร์เพิ่มจนทำอีกสองลูก

หลังจบเกม ธอร์สบี้กับเพื่อนร่วมทีมยกเครดิตให้ฮาลันด์ว่า “ไม่ได้เป็นแค่คนทำประตู แต่เป็นกัปตันที่ช่วยอ่านเกมและเปลี่ยนวิธีเล่นของทั้งทีมในช่วงเวลาสำคัญ”

แถมยังมีโมเมนต์น่ารัก ๆ ที่ฮาลันด์เดินถือถุงเบอร์เกอร์เกือบ 70 ชิ้นกลับเข้าห้องแต่งตัวให้เพื่อน ๆ ฉลองหลังจบเกมด้วย เรียกเสียงหัวเราะทั้งโซเชียลและในแคมป์ทีมชาติ

ชัยชนะนัดนี้ทำให้นอร์เวย์เข้าใกล้ตั๋วบอลโลกแค่ไหน

ตอบก่อน: ถ้าอิตาลีไม่ยิงชนะนอร์เวย์แบบสกอร์มหาศาล นอร์เวย์ก็จะไปบอลโลกแน่นอน

สถานการณ์กลุ่ม I หลังจบเกมนี้

  • นอร์เวย์มี 24 คะแนนเต็มจาก 8 นัด ประตูได้เสีย +32

  • อิตาลีตามมาด้วย 18 คะแนน ต้องลุ้นชนะนัดที่เหลือแบบสกอร์ขาดมาก ๆ ถึงจะมีโอกาสแซง แต่ในทางปฏิบัติแทบเป็นไปไม่ได้

  • ฟีฟ่าถึงขั้นเขียนบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า นอร์เวย์ “คว้าตั๋วบอลโลก 2026” แล้ว เรียบร้อยในฐานะตัวแทนยุโรปอีกหนึ่งทีม

นั่นหมายความว่า ถ้าไม่มีอะไรพลิกจริง ๆ เราจะได้เห็นนอร์เวย์กลับไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 พร้อมสตาร์เบอร์หนึ่งอย่างฮาลันด์ในชุดตัวจริง

มุมบรรณาธิการ – ทำไม นอร์เวย์ 4-1 เอสโตเนีย ถึงเป็นเกมสำคัญของฟุตบอลโลก 2026

มองในมุมบรรณาธิการข่าวกีฬา UFABET เกมนี้สำคัญด้วยเหตุผล 3 ข้อ

  1. นี่คือการปิดฉาก “ยุคมืด” ของทีมชาติ นอร์เวย์

    • หลังจากหลุดบอลโลกมาหลายครั้ง นอร์เวย์กลับมาด้วยทีมที่สร้างบนแกนฮาลันด์–โอดิเกิร์ด–เซอร์ลอธ

    • ผล 4–1 เกมนี้คือตราประทับว่า ทีมไม่ได้มีดีแค่ชื่อกองหน้า แต่ทั้งระบบพร้อมไปลุยเวทีใหญ่

  2. มันแสดงให้เห็นการเติบโตของฮาลันด์ในบทบาทกัปตันทีม

    • ไม่ใช่แค่คนยิงประตู แต่ใช้คำพูดตอนพักครึ่งช่วยเปลี่ยนแท็กติก และดึงทีมกลับมามีสมาธิ

    • ภาพกัปตันที่ซื้อเบอร์เกอร์ให้เพื่อน ๆ หลังเกม ก็ทำให้เห็นด้านเป็นกันเองในห้องแต่งตัว ซึ่งสำคัญกับเคมีทีมพอ ๆ กับฟอร์มในสนาม

  3. สำหรับแฟนบอลไทยและคนอ่านข่าวบอลโลก

    • การที่ชาติอย่างนอร์เวย์กลับสู่เวทีบอลโลก ทำให้ทัวร์นาเมนต์ 2026 น่าดูขึ้นอีก เพราะจะมีสตาร์ระดับฮาลันด์ลงเล่นในเวทีสูงสุดครั้งแรก

    • ยังเป็นตัวอย่างของทีมเล็ก–กลางในยุโรปที่ใช้ “เจนใหม่คุณภาพสูง + แท็กติกที่เหมาะกับจุดเด่น” แล้วกลับมาแจ้งเกิดบนเวทีโลกได้จริง

สรุปท้ายบทความ

แมตช์ นอร์เวย์ 4-1 เอสโตเนีย อาจดูเหมือนเกมที่ทีมเต็งยิงทีมรอง แต่ถ้าดูให้ลึก มันคือจุดเปลี่ยนสำคัญของฟุตบอลนอร์เวย์ทั้งชาติ และเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าระหว่างทางไป ฟุตบอลโลก 2026

จากครึ่งแรกที่โดนโห่ในบ้าน ไปสู่ครึ่งหลังที่ยิง 4 ลูก จากคำพูดไม่กี่ประโยคของกัปตันชื่อ เออร์ลิง ฮาลันด์ นี่คือเกมที่ทำให้เรารู้ว่า บอลโลกครั้งหน้า จะมี “ตัวละครหลัก” เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งทีมและหนึ่งซูเปอร์สตาร์อย่างแท้จริง