premier-league-squad-cost-ratio-2025

กฎการเงินใหม่พรีเมียร์ลีก 2025 คืออะไร ทำไมทุกทีมต้องจับตา

พรีเมียร์ลีกเพิ่งโหวตผ่าน “Squad Cost Ratio” หรือ SCR กฎการเงินชุดใหม่ที่บังคับให้แต่ละสโมสรใช้เงินกับค่าตัว ค่าเหนื่อย และเอเจนต์ไม่เกิน 85% ของรายได้ฟุตบอล รวมกำไร–ขาดทุนจากการขายนักเตะ โดยจะเริ่มใช้จริงในฤดูกาล 2026-27 แทนกฎ PSR เดิม

จาก PSR สู่ Squad Cost Ratio เปลี่ยนอะไรบ้างแบบเข้าใจง่าย

ก่อนหน้านี้ พรีเมียร์ลีกใช้กฎ Profitability and Sustainability Rules (PSR) วัดผลกำไร–ขาดทุนรวมของสโมสร ว่าขาดทุนเกินเพดาน 3 ปีหรือไม่ ใครเกินโดนลงโทษ ตัวอย่างชัด ๆ คือ เอฟเวอร์ตัน และน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เคยถูกตัดแต้มเพราะทำบัญชีติดลบเกินกำหนด

SCR คิดคนละมุม

  • PSR → ดู “กำไร–ขาดทุนรวม” ทุกค่าใช้จ่าย

  • SCR → โฟกัสเฉพาะ “ค่าใช้จ่ายทีมชุดใหญ่” เช่น

    • ค่าเหนื่อยนักเตะและสตาฟฟ์

    • ค่าเสื่อมค่าตัวจากสัญญา

    • ค่าคอมมิชชันเอเจนต์

แนวคิดคือ ลีกอยากคุมให้สโมสรไม่เอาเงินทุ่มลงสนามเกินตัว แต่ยังให้มีอิสระไปลงทุนเรื่องสนาม ศูนย์ฝึก หรือโครงสร้างสโมสรได้มากขึ้น เพราะส่วนนี้ไม่ถูกนับใน SCR

เส้น 85% และ 115% คืออะไร ทำไมถูกเรียกว่าเขตสีเขียว–สีแดง

ภายใต้กฎใหม่นี้ แต่ละทีมจะมี “เพดานใช้จ่าย” ของตัวเอง แบ่งเป็นสองระดับ

  • Green Threshold – เขตสีเขียว (85%)
    ใช้จ่ายกับทีมได้ไม่เกิน 85% ของรายได้ฟุตบอล + กำไรจากการขายนักเตะ ถ้าอยู่ต่ำกว่าหรือเท่ากับเส้นนี้ถือว่าปลอดภัย

  • Red Threshold – เขตสีแดง (สูงสุด 115%)
    ลีกเปิดโอกาสให้ใช้เกิน 85% ได้ แต่ไม่เกิน 30% ของเพดาน (รวมแล้วไม่เกิน 115%) ส่วนที่เกิน 85% จะถูกคิดเป็น “levy” หรือเงินลงโทษจ่ายคืนเข้าสู่ระบบลีก

บทลงโทษ

  • เกิน 85% แต่ไม่เกิน 115% → โดนปรับเงิน แต่ยังไม่โดนตัดแต้ม

  • เกิน 115% → เสี่ยงโดนลงโทษทางกีฬา เช่น ตัดแต้ม โดยรูปแบบโทษละเอียดแต่ละปีอาจปรับตามประกาศของลีก

สำหรับทีมที่เล่นถ้วยยุโรป ยังต้องตามกฎของยูฟ่าที่เข้มกว่าคือใช้จ่ายได้เพียง 70% ของรายได้เท่านั้น ทำให้สโมสรต้องบาลานซ์กฎสองชุดไปพร้อมกัน

ปิดช่องโหว่ “ขายโรงแรม–ขายทีมหญิง” ช่วยให้เกมการเงินแฟร์ขึ้น

หนึ่งในประเด็นที่ทำให้ลีกต้องยกเครื่องกฎ คือบางสโมสรเคยใช้ “ดีลขายทรัพย์สินให้เจ้าของ” เช่น โรงแรม หรือสิทธิ์ทีมฟุตบอลหญิง เพื่อบันทึกเป็นรายได้ในบัญชี ทำให้ผ่าน PSR ทั้งที่ธุรกิจจริงไม่ได้ดีขึ้นมากนัก

ภายใต้ SCR ใหม่

  • รายได้ที่นับสำหรับเพดาน 85% จะจำกัดอยู่ที่รายได้จากฟุตบอลจริง ๆ

  • ไม่สามารถเอาดีลขายทรัพย์สินแบบนี้มาช่วยแต่งตัวเลขให้สวยเกินความจริงได้อีก

มาตรการนี้ช่วยให้ทีมที่ไม่ได้มีทรัพย์สินมหาศาล ไม่ถูกเสียเปรียบจากคู่แข่งที่มีเครือธุรกิจใหญ่หลังสโมสร เพราะทุกคนต้องเล่นอยู่บนฐานรายได้ฟุตบอลที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น

ทำไมกฎใหม่สำคัญทั้งสำหรับสโมสร แฟนบอล และสายเดิมพัน

ในมุมบรรณาธิการสายกีฬา–เดิมพันแบบ UFABET ต้องยอมรับว่ากฎการเงินมีผลโดยตรงกับ “ความสูสีของลีก”

  • ทีมที่เคยใช้เงินแก้ปัญหาระยะสั้น อาจต้องลดสเกลการซื้อสตาร์ราคาแพง

  • สโมสรกลางตารางที่บริหารดีอยู่แล้ว จะมีโอกาสไล่จี้ทีมใหญ่ได้มากขึ้น เพราะช่องว่างการใช้เงินแคบลง

  • ความเสี่ยงโดนตัดแต้มจากการใช้เงินเกินตัวทำให้ทีมต้องวางแผนการเสริมทัพแบบระยะยาวมากกว่าเดิม

สำหรับแฟนบอลและคอบอลที่ชอบดูราคาต่อ–รองหรือสถิติแนว xG, form, depth ต่าง ๆ การเปลี่ยนกฎแบบนี้อาจทำให้ภาพรวมลีก “สมดุล” ขึ้นในระยะยาว แมตช์ระดับกลางตารางอาจเดาทางยากขึ้น แต่สนุกขึ้นเพราะคุณภาพทีมเริ่มใกล้กัน

ใครที่อยากตามทั้งข่าวการเงิน การซื้อขาย และอัตราต่อรองพรีเมียร์ลีก สามารถติดตามผ่านแพลตฟอร์มอย่าง ยูฟ่าเบท ที่มักเปิดราคาเร็วและมีข้อมูลประกอบให้ดูหลายคู่ ระหว่างที่กฎใหม่เริ่มมีผลในตลาดซื้อขายช่วงต่อไป

แล้วต่อจากนี้พรีเมียร์ลีกจะเปลี่ยนไปยังไง

เมื่อ SCR เริ่มใช้จริงในฤดูกาล 2026-27 สิ่งที่น่าจับตาคือ

ตลาดซื้อขายจะ “เย็นลง” หรือแค่เปลี่ยนวิธีใช้เงิน

  • ดีลสถิติโลกอาจยังเกิดขึ้น แต่จะต้องมีการขายออกและปรับค่าเหนื่อยนักเตะคนอื่น ๆ ให้บาลานซ์มากขึ้น

  • ทีมอาจเน้นสัญญายาวกับดาวรุ่ง เพื่อลดค่าเสื่อมต่อปี แทนการซื้อแพงสั้น ๆ

  • การปล่อยนักเตะฟรีหรือขายออก เพื่อเคลียร์เพดานเงินเดือน จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนทุกซัมเมอร์

ช่องว่างระหว่างทีมรวย–ทีมเล็กจะหดลงแค่ไหน

แม้ทีมใหญ่ยังได้เปรียบด้านแบรนด์และรายได้ แต่เมื่อทุกคนถูกล็อกด้วยเพดาน 85% ของรายได้ตัวเอง การเอาเงินทิ้งลงสนามแบบไม่จำกัดจะทำได้ยากขึ้น

ทีมที่บริหารดี ขายเก่ง ปั้นเยาวชนเก่ง อาจมีโอกาสไปเล่นยุโรปบ่อยขึ้น เพราะไม่ต้องสู้กับ “ทุนหนาไร้เพดาน” แบบสมัยก่อน

สรุปส่งท้าย: SCR คือหมุดหมายใหม่ของพรีเมียร์ลีกยุคการเงินเข้มข้น

  • พรีเมียร์ลีกยืนยันใช้ Squad Cost Ratio แทน PSR เริ่มฤดูกาล 2026-27

  • แต่ละสโมสรใช้เงินกับทีมชุดใหญ่ได้ไม่เกิน 85% ของรายได้ฟุตบอล ถ้าใช้เกินจะเจอทั้งค่าปรับและเสี่ยงโดนตัดแต้มเมื่อเกิน 115%

  • ลีกปิดช่องขายทรัพย์สินให้เจ้าของเพื่อตกแต่งบัญชี ทำให้ระบบดูแฟร์ขึ้นกับทุกสโมสร

  • สำหรับแฟนบอลและคอเดิมพัน การเปลี่ยนกฎนี้อาจทำให้ลีกในอนาคตสูสีขึ้น ทีมกลางตารางมีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์มากกว่าเดิม