
ดอร์ทมุนด์ 4-0 บียาร์เรอัล กีราสซี่เบิ้ล เสือเหลืองคืนฟอร์มโหดในบ้าน
คืนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ที่ซิกนัล อิดูนา พาร์ค โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านถล่ม บียาร์เรอัล 4-0 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ลีกเฟส จากสองประตูของ เซอร์รู กีราสซี่ และอีกสองลูกของ คาริม อเดเยมี่ กับ ดาเนียล สเวนส์สัน ช่วยหยุดสถิติไม่ชนะ 3 นัดติดทุกรายการ พร้อมกลับมาลุ้นท็อป 8 อย่างจริงจัง
ภาพรวมเกม – ดอร์ทมุนด์คุมเกมตั้งแต่ต้น บียาร์เรอัลเหลือ 10 คนยิ่งต้านไม่ไหว
รูปเกมตลอด 90 นาที ดอร์ทมุนด์เป็นฝ่ายคุมแทบทั้งหมด ครองบอลราวสองในสามของเวลา สร้างโอกาสยิงครบทั้งลูกครอส ลูกทะลุช่อง และลูกสวนกลับ ขณะที่บียาร์เรอัลได้แต่ตั้งโซนรับลึกและรอโต้กลับ แต่แทบไม่มีจังหวะจบคม ๆ เลย
-
เสือเหลืองเน้นเพรสสูงตั้งแต่แดนหน้า บีบให้เกมรับทีมเยือนเตะทิ้งเตะขว้าง
-
บียาร์เรอัลส่งตัวหลักบางคนเป็นสำรอง เน้นยืนเกมรับแน่นก่อน แต่สุดท้ายก็โดนทะลวงจากความเร็วของแนวรุกดอร์ทมุนด์
-
จุดเปลี่ยนใหญ่ของเกมคือใบแดงของ ฮวน ฟอยท์ ช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้ดอร์ทมุนด์เล่นง่ายขึ้นมากในช่วงท้าย
ไทม์ไลน์ประตู – กีราสซี่เปิดทาง อเดเยมี่–สเวนส์สันปิดกล่อง
1-0 กีราสซี่ยิงนำก่อนพักครึ่ง 45+2
ก่อนหมดครึ่งแรกช่วงทดเวลา ดอร์ทมุนด์ได้บอลทางกราบขวา บอลครอสเข้ากลางแล้วถูกโหม่งชุลมุนในเขตโทษ ก่อนเด้งมาเข้าทาง เซอร์รู กีราสซี่ ซัดจ่อ ๆ ไม่เหลือ ส่งเจ้าบ้านนำ 1-0 แบบแฟนในสนามโล่งอกกันถ้วนหน้า
ใบแดง–จุดโทษ ฟอยท์ทำแฮนด์บอล นาที 52
ต้นครึ่งหลัง นาที 52 บียาร์เรอัลต้องเหลือ 10 คน เมื่อฮวน ฟอยท์ใช้มือปัดบอลในเขตโทษ กรรมการเช็ก VAR แล้วให้ทั้งใบแดงและจุดโทษ ดอร์ทมุนด์ได้โอกาสทองทิ้งห่าง
2-0 กีราสซี่ยิงซ้ำจุดโทษ นาที 54
กีราสซี่รับหน้าที่ยิงจุดโทษ ลูกแรกถูกเซฟ แต่บอลยังเด้งมาอยู่ตรงหน้าเจ้าตัว จึงซัดซ้ำตุงตาข่าย กลายเป็นประตู 2-0 และเป็นลูกที่สองของเขาในเกมนี้
3-0 อเดเยมี่ใส่ชื่อบนสกอร์บอร์ด นาที 58
ไม่กี่นาทีถัดมา นาที 58 คาริม อเดเยมี่ หลุดเข้าเขตโทษทางซ้าย รับบอลทะลุช่องจากแบรนด์ท ก่อนยิงบอลแฉลบกองหลังเสียบเสาแรก เป็นประตู 3-0 ที่แทบปิดประตูกลับมาของทีมเยือน
4-0 สเวนส์สันโหม่งปิดท้าย นาที 90+5
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+5 ดอร์ทมุนด์ยังไม่ผ่อน เกมรุกทางขวาครอสเข้ากลางให้ ดาเนียล สเวนส์สัน โหม่งระยะเผาขนเป็น 4-0 จบค่ำคืนที่เพอร์เฟกต์ต่อหน้าแฟนบอลกว่า 8 หมื่นคนในซิกนัล อิดูนา พาร์ค
ดาวเด่นเกมนี้ – กีราสซี่คืนความมั่นใจ อเดเยมี่เรียกฟอร์มเก่ง
ชื่อที่ถูกพูดถึงมากสุดแน่นอนคือ เซอร์รู กีราสซี่ ที่เหมาสองประตูในเกมนี้ ทั้งจากจังหวะเก็บตกและประตูซ้ำจุดโทษ ช่วยปลดล็อกตัวเองหลังช่วงก่อนหน้าฟอร์มฝืดในลีกและยุโรป
-
สื่อเยอรมนีชื่นชมว่า กีราสซี่ใช้พละกำลังและการหาพื้นที่ในเขตโทษได้ครบเครื่องมาก
-
อเดเยมี่โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งการเรียกฟาวล์, ดึงจังหวะ และจบสกอร์เองหนึ่งลูก จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในเกมดีที่สุดของฤดูกาลนี้สำหรับเขา
-
แนวรับดอร์ทมุนด์ก็ได้รับคำชม เพราะนี่คือเกมแรกใน UCL ฤดูกาลนี้ที่ทีมเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ หลังเคยเสียประตูเยอะในนัดก่อน ๆ
ผลต่ออันดับลีกเฟส – เสือเหลืองแต้มเท่าบิ๊กทีม ลุ้นท็อป 8
ชัยชนะ 4-0 นัดนี้ทำให้ดอร์ทมุนด์มี 10 แต้มจาก 5 นัด ประตูได้เสีย +6 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ของตารางลีกเฟส แชมเปียนส์ลีก เท่ากับเชลซีและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่วนบียาร์เรอัลยังมีเพียง 1 แต้มจาก 5 นัด จมโซนท้ายตารางต้องลุ้นแค่ศักดิ์ศรีในเกมสุดท้ายมากกว่าจะหวังเข้ารอบแล้ว
-
ก่อนเกมนี้ ดอร์ทมุนด์อยู่กลางตารางและโดนกดดันจากสื่อว่าฟอร์มแกว่ง
-
การชนะขาด 4-0 ไม่ใช่แค่แต้ม แต่ช่วยเรียกความมั่นใจทั้งทีม กลายเป็นโมเมนตัมสำคัญก่อนกลับไปลุยบุนเดสลีกาและนัดสุดท้ายลีกเฟส
มุมบรรณาธิการ UFABET – เกมที่สอนว่าฟอร์มตกชั่วคราว แต่โครงทีมยังดีอยู่
ในมุมของบรรณาธิการที่ติดตามทั้งสถิติ ทั้งราคา และฟอร์มทีมอย่างใกล้ชิด เกม ดอร์ทมุนด์ 4-0 บียาร์เรอัล สะท้อนว่า “ทีมที่ถูกมองว่าฟอร์มตก” ไม่ได้แปลว่าคุณภาพหายไปทั้งหมด
อธิบายต่อแบบเข้าใจง่าย:
-
สามนัดไม่ชนะไม่ได้แปลว่าทีมแย่ถาวร
-
ดอร์ทมุนด์แค่ต้องการเกมหนึ่งเกมเพื่อเรียกความมั่นใจ และแมตช์นี้คือคำตอบ
-
-
แท็กติกบวกบรรยากาศในบ้านคืออาวุธลับ
-
ซิกนัล อิดูนา พาร์ค เต็มความจุ เสียงเชียร์ช่วยให้จังหวะเพรสและวิ่งไล่ของเสือเหลืองดุดันกว่าเดิม
-
-
มุมสายวิเคราะห์–สายเชียร์
-
เวลาเปิดตารางหรือดูราคาต่างประเทศในแพลตฟอร์มอย่าง UFABET เว็บตรง การดูแค่ฟอร์ม 2–3 นัดหลังไม่พอ ต้องดูด้วยว่าทีมได้เล่นในบ้านไหม แท็กติกของโค้ชเปลี่ยนยังไง และเจอคู่แข่งสไตล์ไหน
-
และแน่นอน ทุกการเสี่ยงดวงควรอยู่ในงบที่วางไว้ เล่นเพื่อความสนุกและความบันเทิงเป็นหลักเสมอ
-
สรุปส่งท้าย: คืนที่เสือเหลืองปล่อยของเต็ม ๆ
-
ดอร์ทมุนด์ถล่มบียาร์เรอัล 4-0 จากสองประตูของกีราสซี่ บวกอเดเยมี่และสเวนส์สัน ช่วยหยุดสถิติไม่ชนะ 3 นัดติด พร้อมเก็บคลีนชีตนัดแรกใน UCL ฤดูกาลนี้
-
ผลงานนี้ดันเสือเหลืองขึ้นกลุ่มบนของตารางลีกเฟส มีแต้มเท่าบิ๊กทีมอย่างซิตี้และเชลซี ทำให้เส้นทางลุ้นท็อป 8 และเข้ารอบอัตโนมัติสดใสขึ้นมาก
-
ฝั่งบียาร์เรอัลต้องยอมรับว่าฟอร์มในยุโรปยังไม่ดีพอ แม้จะโรเตชั่นและเน้นเกมรับ แต่การเหลือผู้เล่น 10 คนและเจอแนวรุกเร็ว ๆ ของดอร์ทมุนด์ ทำให้สุดท้ายต้านไม่ไหว