Trent Alexander-Arnold เรอัลมาดริด

Trent Alexander-Arnold เงียบที่มาดริด แต่ยังไม่ใช่จุดจบของอาชีพ

สำหรับแฟนพรีเมียร์ลีก ชื่อของ Trent Alexander-Arnold เรอัลมาดริด ยังเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง เพราะตั้งแต่ย้ายจากลิเวอร์พูลไปสเปน ชีวิตเขาดูเหมือน “ถอยหลัง” ทั้งเรื่องโอกาสลงเล่นและสถานะในทีมชาติอังกฤษ

บทคอลัมน์จาก The Guardian วันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 สรุปภาพชัดเจนว่า ตอนนี้เทรนต์กำลังถูกมองว่า “ถูกกลืนหาย” ในเมืองมาดริด แต่ก็ย้ำเหมือนกันว่า นี่ไม่ใช่จุดจบ และเขายังมีทางกลับมาได้ด้วยตัวเอง

จากคลิปพูดสเปนบน IG สู่คำด่าว่า “หักหลังลิเวอร์พูล”

จุดเริ่มต้นของดราม่ารอบใหม่คือคลิปที่เทรนต์พูดภาษาสเปนกับ Sara Duque ครูสอนภาษาของเขา ซึ่งลงใน Instagram พร้อมคำชมว่าเขาตั้งใจเรียนมาห้าเดือน

ปัญหาคือ แฟนลิเวอร์พูลบางส่วนเอาไปจับผิดว่า

  • ถ้าเรียนมา 5 เดือน แปลว่าเริ่มเรียนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ยังเป็นนักเตะหงส์

  • เลยตีความว่า “เตรียมหนีไปมาดริดตั้งแต่ยังไม่ย้าย”

จากคลิปที่ควรเป็นเรื่องน่าภูมิใจ กลายเป็นเชื้อไฟให้คำด่าอย่าง “หนูทรยศ, rat” จนมีคนไปพ่นสเปรย์ใส่ภาพวาด mural ของเขาใกล้แอนฟิลด์ก่อนเกมลิเวอร์พูล–เรอัล มาดริด ในแชมเปียนส์ลีกด้วย

เจ็บบ่อย นั่งสำรอง และหลุดทีมชาติอังกฤษ

ในสนามสถานการณ์ก็ไม่ง่าย เทรนต์เจ็บไปพักหนึ่งช่วงต้นฤดูกาล และแม้จะหายกลับมา เขาก็ยังต้องนั่งสำรองอยู่ดี เพราะ ชาเบีย อลอนโซ่ เลือกใช้ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ยืนแบ็กขวาชั่วคราว แม้จริงๆ จะไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของบัลเบร์เด้ก็ตาม

ผลคือ

  • เทรนต์แทบไม่ได้ออกสตาร์ตตัวจริง

  • ถูกมองว่า “ยังไม่เข้าระบบมาดริด” และดูไม่มั่นใจเวลาได้ลงสนาม

  • ขณะเดียวกัน โธมัส ทูเคิล ก็ไม่ได้เรียกเขาติดทีมชาติอังกฤษชุดล่าสุดอีกครั้ง ทำให้มีเวลาว่าง “นั่งเรียนภาษาสเปนต่อ” ตามคำประชดของสื่อ

มุมมองที่เป็นกลางกว่านั้นในบทวิเคราะห์บอกว่า เขาอาจยังไม่ฟิตเต็มร้อย และอลอนโซ่แค่รอจังหวะที่ทีมพร้อมรับจุดเด่น–จุดอ่อนของเทรนต์ได้ดีกว่านี้เท่านั้น

เมื่อไม่มี “ลัทธิ Trent” คอยปกป้อง กระแสก็พร้อมตีกลับ

อีกประเด็นสำคัญของคอลัมน์นี้คือเรื่อง “พลังแฟนบอล” ผู้เขียนชี้ว่า ยุคนี้นักเตะระดับท็อปต้องมีฐานแฟนที่พร้อมปกป้องและเล่าเรื่องดีๆ ให้ในโลกออนไลน์ ถ้าไม่มีคนออกมาช่วยเถียง ภาพจำในสื่อจะถูกตัดสินจากกระแสด้านเดียวทันที

ตอนอยู่ลิเวอร์พูล เทรนต์มีฐานแฟนหงส์คอยหนุนหลังเสมอ แม้จะโดนวิจารณ์เรื่องเกมรับ แต่ก็ยังมีเสียงปกป้องว่า “เขาคือเพลย์เมกเกอร์จากตำแหน่งแบ็กขวา”
แต่พอย้ายออกมา

  • เขาเสียฐานแฟนหงส์ไปส่วนหนึ่ง

  • ยังไม่มีแฟนเรอัล มาดริดมารับไม้ต่อเต็มๆ เพราะเขายังไม่ได้ลงเล่นจนโชว์ของจริง

เลยกลายเป็นสถานการณ์แปลกๆ ที่ “ไม่มีใครพูดแทน Trent” ทั้งที่เขาคือแชมป์ยุโรปและหนึ่งในตัวปั้นเกมที่ดีที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก

ทำไม Trent ยังถูกมองว่าสเปเชียล แม้จะโดนดราม่ารอบตัว

แม้บทความจะวิจารณ์กระแสลบที่ถาโถม แต่ผู้เขียนยังยืนยันว่า โปรไฟล์ของเทรนต์ “ไม่มีใครเหมือน”

  • เป็นแบ็กขวาที่เล่นเหมือนมิดฟิลด์จ่ายบอลยาวระดับท็อป

  • Alexis Mac Allister เคยพูดว่า เทรนต์คือ “คนที่จ่ายบอลได้ดีที่สุดที่เคยเล่นด้วย” ทั้งที่เขาเคยเล่นกับเมสซี่มาแล้วด้วยซ้ำ

  • เขากล้าตั้งเป้าอยากได้ Ballon d’Or ในฐานะแบ็กขวา มากกว่าคิดถึงแชมป์โลกด้วยซ้ำ

ตรงนี้ทำให้บทความสรุปว่า เทรนต์อาจจะเป็นนักเตะแบบที่ “ถูกสร้างขึ้นมาใหม่” ไม่มีต้นแบบชัด และนั่นคือเหตุผลที่โค้ชทีมชาติอังกฤษอาจยังหาตำแหน่งให้เขาไม่ลงตัว แต่ไม่ได้แปลว่าคุณค่าของเขาหายไปไหน

มุมมองบรรณาธิการ – จุดเปลี่ยนของลูกหม้อพรีเมียร์ลีกคนนี้

ในมุมของชั้นในฐานะบรรณาธิการข่าวกีฬา ข่าวของ Trent Alexander-Arnold เรอัลมาดริด คือเคสตัวอย่างว่า

  1. การย้ายทีมไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติก แต่คือเรื่องแบรนด์ส่วนตัว
    การย้ายออกจากสโมสรที่เป็นบ้านเกิดทางฟุตบอลอย่างลิเวอร์พูล หมายถึงการแลกฐานแฟนระดับโลกกับโอกาสใหม่ที่มาดริด ถ้าในสนามยังไม่เปรี้ยง แบรนด์ส่วนตัวก็โดนกระแสลบกดทันที

  2. โซเชียลมีเดียกำหนดภาพนักเตะแรงกว่าสถิติในสนาม
    คลิปเรียนภาษา การพ่นสเปรย์ใส่ mural หรือช็อตที่กล้องจับตอนนั่งสำรอง กลายเป็นหลักฐานที่คนใช้ตัดสินว่าเขาล้มเหลว ทั้งที่จริงๆ ตัวเลขในสนามยังไม่พอจะสรุปอะไรเลย

  3. ถ้าจะกลับมา เทรนต์ต้องทำเองแทบทั้งหมด
    ไม่มี “ลัทธิ Trent” ที่จะคอยอวยให้แล้ว เขาจำเป็นต้องใช้ผลงานในสนามที่มาดริดและโอกาสกลับมาติดทีมชาติ เป็นคำตอบสุดท้ายให้ตัวเอง

สรุปส่งท้าย

ในมุมมองของ UFABET ตอนนี้เทรนต์อาจดูเหมือนหลุดจากเรดาร์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว แต่สำหรับแฟนบอลและคนทำคอนเทนต์สายพรีเมียร์ลีก เขายังเป็นตัวละครสำคัญที่ต้องจับตา

หากเขากลับมาแย่งตำแหน่งตัวจริงที่มาดริดได้ และรีดฟอร์มจ่ายบอล–เปิดบอลแบบที่เคยทำร่วมกับซาลาห์ในยุคพีกของลิเวอร์พูล เรื่องเล่าจากคำว่า “เด็กหงส์ที่ทรยศสโมสร” อาจถูกเขียนใหม่เป็น “แบ็กขวาที่กล้าออกจากคอมฟอร์ตโซนและกลับมาได้ด้วยตัวเอง” ซึ่งในโลกฟุตบอลยุคนี้ ถือว่าโหดกว่าการเปิดบอลสวยๆ อีกหลายเท่า